Tag: visa

คำถาม ควรเริ่มติดต่อทนายเพื่อเตรียมเอกสารเพื่อยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานะหรือวีซ่านักลงทุนตอนไหน

คำตอบ กรณีเซ้ง Take-over existing business ควรเริ่มติดต่อทนายก่อนจะตกลงเซ็นสัญญาซื้อขายร้านหรือวางมัดจำกับผู้ขาย กรณี Start- Up ควรเริ่มติดต่อทนายก่อนตกลงเซ็นสัญญากับ Landlord เรื่องการเช่าสถานที่ ลูกค้าหลายๆท่านมาติดต่อเราเพื่อให้ช่วยยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานะหรือขอวีซ่านักลงทุน E2 หลังจากที่เปิดร้านแล้วบ้างก็มี หลังจากโอนเงินและทำ closing กับคนขายแล้วบ้างก็มี บางคนโชคดีโอนเงินและใช้แหล่งที่มาของเงินที่ถูกต้องตามกฎระเบียบของอิมมิเกรชั่นก็ทำให้เคสไม่ประสบปัญหา แต่บางคนใช้แหล่งที่มาของเงินที่ไม่ถูกต้องและโอนเงินมาไม่ถูกต้องตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดก็จะทำให้เคสประสบปัญหาและอิมมิเกรชั่นตั้งคำถามมาก ดังนั้นช่วงเวลาที่ลูกค้าควรเริ่มติดต่อทนายเพื่อเตรียมยื่นเรื่องวีซ่านักลงทุน คือ เมื่อได้ร้านหรือธุรกิจที่สนใจจะลงทุนและได้มีการพูดคุยกับผู้ขายและLandlord ในเบื้องต้นแล้วเรื่องราคาซื้อและค่าเช่า โดยที่ทนายจะได้แนะนำวิธีการโอนเงินเข้ามาจากประเทศไทยอย่างถูกต้องและตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ลงทุน (เงินที่จะนำมาชำระให้แก่ผู้ขายและผู้ให้เช่า) ว่ามาจากแหล่งที่มาของเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีเอกสารพิสูจน์ได้ เพื่อให้การเปลี่ยนสถานะหรือการขอวีซ่านักลงทุนราบรื่นค่ะ

Read More

คำถาม เปลี่ยนสถานะเป็นนักลงทุน E2 ในอเมริกา หลังจากเรื่องผ่านแล้วจะเดินทางเข้าออกได้หรือไม่

คำถาม ถ้าหากเข้ามาอเมริกาด้วยวีซ่าอื่นเช่น B2/ F1 และมาทำเรื่องเปลี่ยนสถานะเป็นนักลงทุน E2 ในอเมริกา หลังจากเรื่องผ่านแล้วจะเดินทางเข้าออกอเมริกาได้หรือไม่ คำตอบ การเปลี่ยนสถานะ หรือ Change of Status คือการที่อิมมิเกรชั่นอนุญาติให้ผู้ยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานะการอยู่ในอเมริกาจากนักท่องเที่ยว นักเรียนหรือสถานะอื่น เป็นสถานะนักลงทุนและทำธุรกิจได้ โดยปกติแล้วอิมมิเกรชั่นจะให้สถานะนักลงทุนครั้งละสองปีและผู้ยื่นสามารถอยู่ในอเมริกาเพื่อทำธุรกิจได้เลยพอเรื่องการเปลี่ยนสถานะผ่าน ไม่จำเป็นต้องเดินทางออกไปยื่นเรื่องที่สถานฑูตอเมริกาที่ไทย และต่ออายุในอเมริกาได้ไม่จำกัดครั้งตราบใดที่ยังมีธุรกิจอยู่ เอกสารที่ผู้ยื่นจะได้รับพอเรื่องเปล่ี่ยนสถานะผ่าน คือ I94 ใหม่ที่ระบุสถานะนักลงทุน และวันหมดอายุของสถานะ (ไม่ใช่วีซ่านะคะ) แต่ถ้าระหว่างสองปีนั้น ผู้ยื่นต้องการเดินทางกลับประเทศไทยหรือไปเที่ยวต่างประเทศ ผู้ยื่นต้องไปยื่นขอวีซ่านักลงทุนที่สถานฑูตอเมริกาที่ไทยก่อนจะเดินทางกลับเข้ามาอเมริกาเพื่อบริหารธุรกิจเดิมต่อค่ะ โดยที่สถานฑูตจะให้วีซ่าที่มีอายุหกเดือน ในระหว่างหกเดือนนั้นเดินทางเข้าออกได้ตลอด แต่ละครั้งที่เข้ามา ตมจะประทับตราให้อยู่ได้สองปีนับจากวันที่เดินทางเข้ามาล่าสุด เช่น เราได้วีซ่ามีอายุ 6 months from 01/01/2018- 06/30/2018 เดินทางเข้าออกได้ตลอดจนวันที่ 06/30/2018 หากเลยจากนี้ไปแล้วต้องการกลับไทยต้องไปขอวีซ่าใหม่(วีซ่าใหม่ที่ได้ก็มีอายุหกเดือน และแต่ละครั้งที่เข้ามาก็อยู่ได้สองปีนับจากวันที่เดินทางเข้ามาอเมริกา) โดยที่ขั้นตอนและเอกสารในการขอวีซ่าจากไทยก็คล้ายกันกับการยื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกาค่ะ

Read More

อยากได้พ่อครัวมาจากไทยทำอย่างไร

ได้รับคำถามจากเจ้าของร้านอาหารหลายๆท่านที่ต้องการนำพ่อครัวแม่ครัวเข้ามาจากประเทศไทย เนื่องจากหาคนงานในอเมริกาที่จะทำงานและอยู่กับร้านเรานานๆ ยากเหลือเกิน จึงต้องการจะนำคนรู้จักที่มีประสบการณ์ทำงานในครัวมาจากประเทศไทย วิธีที่เร็ว ง่ายและประหยัดที่สุดคือ ถ้าหากร้านอาหารของคุณมีหุ้นส่วนที่ถือวีซ่านักลงทุน E2  หุ้นส่วนท่านนี้สามารถยื่นเรื่องสปอนเซอร์คนงานมาจากไทยหรือคนงานที่อยู่ในอเมริกาแต่ถือวีซ่าอื่นอยู่ เช่น นักเรียน นักท่องเที่ยว หรือถือวีซ่าทำงานแต่อยู่ภายใต้ร้านอื่นก็ได้ สำหรับคนงานที่อยู่เกินกำหนด(โดด) แล้วร้านไม่สามารถยื่นเรื่องสปอนเซอร์ให้ทำงานได้ อิมมิเกรชั่นไม่ได้จำกัดจำนวนคนงานที่ร้านจะสปอนเซอร์ไว้และคนงานจะได้วีซ่าครั้งละสองปี ต่ออายุได้เรื่อยๆและคนงานต้องทำงานในกับร้านที่ยื่นเรื่องสปอนเซอร์ให้เท่านั้น ซึ่งเป็นข้อดีในแง่การบริหารร้าน ร้านอาหารและร้านนวดสปาที่ต้องอาศัยคนงานจึงนิยมยื่นวีซ่าประเภทนี้กันค่ะ สำหรับร้านที่เจ้าของร้านเป็นอเมริกันซิติเซ่นหรือกรีนการ์ด สามารถเริ่มต้นด้วยการหาหุ้นส่วนคนไทยเข้ามาร่วมหุ้น (ซื้อหุ้นอย่างน้อย 50%) โดยเงินลงทุนที่หุ้นส่วนดังกล่าวต้องมีก็ขึ้นกับมูลค่าของร้านเราค่ะ เช่นถ้าหากร้านมีมูลค่า $100,000 เงินที่ผู้ลงทุนต้องมีคือ $40,000 โดยต้องเป็นเงินลงทุนที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้มาอย่างถูกต้อง จะได้มาจากการเก็บสะสม ขายทรัพย์สิน พ่อแม่ญาติให้ หรือกู้ก็ได้ ทั้งนี้ต้องมีเอกสารประกอบชัดเจนค่ะ

Read More

Source of funds e2 แหล่งที่มาของเงินลงทุน

อาทิตย์นี้จะอธิบายเรื่องแหล่งที่มาของเงินลงทุน Source of Funds ในการขอวีซ่านักลงทุน E2 นะคะ เพราะได้รับคำถามเรื่องนี้ค่อนข้างมากจากผู้อ่านหลายๆท่าน การยื่นขอวีซ่านักลงทุนจากประเทศไทยหรือยื่นขอเปลี่ยนสถานะนักลงทุนในอเมริกาจะผ่านหรือไม่นั้น จุดสำคัญเลยอยู่ที่แหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ลงทุน โดยที่เงินที่นำมาลงทุนต้องสามารถพิสูจน์กับอิมมิเกรชั่นได้ว่าเราได้รับมาโดยถูกต้องตามกฎหมาย ยกตัวอย่างแหล่งที่มาของเงิน เช่น พ่อแม่ หรือญาติ อาจจะให้เรานำมาลงทุน หากเลือกข้อนี้ ต้องมีเอกสารประกอบว่าพ่อแม่หรือญาติทำงานหรือทำธุรกิจอะไร กู้ ต้องมีเอกสารการกู้ เงินสะสม ต้องมีเอกสารหนังสือรับรองการทำงาน หรือใบทะเบียนการค้าว่าทำธุรกิจมาแล้วกี่ปี ขายที่ดิน ต้องมีเอกสารการขายที่ดิน ขายทรัพย์สิน เช่นทอง เพชร รถ ต้องมีเอกสารการขายทรัพย์สินประกอบ โดยที่ไม่ว่าเราจะใช้แหล่งทีมาของเงินข้อไหน จำเป็นที่จะต้องมีเอกสารพิสูจน์เพื่อให้อิมมิเกรชั่นเห็นว่าเงินที่เรานำมาลงทุนนั้นมาจากแหล่งที่ขาวสะอาด สำนักงานเราแนะนำให้ท่านที่สนใจจะยื่นขอวีซ่านักลงทุนจากประเทศไทยหรือยื่นขอเปลี่ยนสถานะเป็นนักลงทุนในอเมริกา อีเมล์เอกสารเรื่องแหล่งที่มาของเงินมาให้เราประเมินให้ว่าเคสของท่านมีโอกาสในการยื่นเรื่องได้หรือไม่ และหากเอกสารไม่พร้อม เราจะแนะนำให้ว่าท่านควรเตรียมตัวอย่างไรให้เรื่องมีโอกาสยื่นและผ่านมากที่สุดค่ะ

Read More

คำถาม ยื่นขอเปลี่ยนสถานะเป็นนักลงทุน E2 ในอเมริกา หากเรื่องผ่านแล้วจะเดินทางกลับเมืองไทย

คำตอบ ได้ค่ะ หากลูกค้าอยู่ที่อเมริกาและยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะเป็นนักลงทุนผ่านแล้ว ซึ่งโดยปกติอิมมิเกรชั่นจะให้สถานะครั้งละสองปี ระหว่างสองปีนี้ หากต้องการเดินทางกลับเมืองไทย สามารถเดินทางกลับได้ แต่ก่อนจะกลับเข้ามาอเมริกาต้องไปทำเรื่องขอวีซ่านักลงทุนที่สถานฑูตอเมริกาในกทม เนื่องจากว่าหน้าวีซ่าในพาสปอร์ตคุณยังคงเป็นวีซ่าเดิม (อาจจะเป็นท่องเที่ยวหรือนักเรียน) และสิ่งที่อิมมิเกรชั่นให้คุณตอนทำเรื่องขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา คือ สถานะนักลงทุน ( E2 STATUS) ไม่ใช่วีซ่า (E2 VISA) นักลงทุนนะคะ คุณจึงต้องไปยื่นขอวีซ่านักลงทุนที่สถานฑูตอเมริกาก่อนจะเดินทางกลับเข้ามาบริหารธุรกิจต่อ สำหรับท่านที่ไม่ต้องการเดินทางกลับไทยและจะอยู่ในอเมริกาตลอดระยะเวลาสองปีที่อิมมเกรชั่นผ่านเรื่องให้ก็ได้ค่ะ และพอใกล้ครบกำหนดสองปีก็ทำเรื่องต่อสถานะ (E2 STATUS) นักลงทุนที่อเมริกาได้เลยค่ะ

Read More

คำถาม คุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นขอวีซ่า E2 employee มีอะไรบ้าง

คำตอบ ตำแหน่งในการยื่นวีซ่า E2 employee แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆคือ ตำแหน่งทางด้าน Management/ Supervisory Positions สำหรับผู้ที่มีประวัติการศึกษาหรือประสบการณ์ด้านการบริหาร  ตำแหน่งในครัว Chef/ Sous chef สำหรับผู้ที่มีประวัติการศึกษาหรือประสบการณ์ด้านการทำอาหาร สำหรับท่านที่ไม่ได้มีประสบการณ์ทำงานด้านที่จะยื่นโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น ต้องการยื่นขอทำงานในตำแหน่งผู้จัดการร้านอาหาร (E2 employee restaurant manager) แต่มีประสบการณ์ทำงานด้านการบริหารบริษัทรถยนต์ก็สามารถยื่นได้ สำนักงานเราเคยยื่นเคสแบบนี้ผ่านมาแล้ว ขั้นตอนหลักคือเราจะส่งเอกสาร คือ degree, transcript and work reference letters ไปทำ evaluation เพื่อให้อิมมิเกรชั่นเห็นว่าคุณมีคุณสมบัติและประสบการณ์ตรงตามกับ Job Description ของตำแหน่งที่จะยื่นค่ะ หากต้องการให้สำนักงานเราประเมินให้ว่าคุณสามารถยื่นขอวีซ่าทำงาน E2 employee ได้หรือไม่ ให้ email resume มาที่ info@globalvisanow.com

Read More

ขั้นตอนการเริ่มธุรกิจในอเมริกาและขอวีซ่านักลงทุน

คำถาม อยากเริ่มทำธุรกิจและขอวีซ่านักลงทุน E2 ควรเริ่มต้นอย่างไร คำตอบ หลายๆท่านต้องการที่จะเริ่มทำธุรกิจในอเมริกา แต่ไม่ทราบว่าต้องเริ่มต้นตรงไหน วันนี้เราสรุปขั้นตอนแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย มาให้ดังนี้คือ Research ค้นหาข้อมูลและสำรวจตลาดดูว่าเราต้องการทำธุรกิจอะไร Take over ลองพูดคุยกับคนขายธุรกิจ หากเราสนใจเข้าไปเซ้งธุรกิจต่อว่าราคาเซ้งเท่าไหร่ รวมอุปกรณ์ เครื่องใช้อะไรบ้าง และประเมินดูว่าเราต้องการซื้อหรือไม่ หากตกลงราคากันได้แล้ว ต้องให้คนขายไปชี้แจงกับ Landlord ว่าจะมีคนเช่าใหม่ และขอดูร่างสัญญาเช่า Start Up หากเป็นกรณีที่เราจะเริ่มทำธุรกิจเอง สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หา location และยื่นใบสมัครกับ landlord สำหรับคนที่พึ่งเดินทางเข้ามาอเมริกาไม่นานและไม่มีเลข SSN และประสบปัญหาไม่มี credit score อาจจะต้องหา Business Partner ที่มีกรีนการ์ดหรือซิติเซ่นเพื่อให้เข้ามาหุ้นด้วยโดยอาจจะเป็นหุ้นเล็กแค่ 5% เพราะจะทำให้การเซ็นสัญญาเช่าง่ายขึ้น Start E2 process หลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้ขาย (กรณีเซ้ง) และ Landlord แล้ว แต่เน้นว่ายังไม่ได้เซ็นสัญญาจริง ให้นำร่างสัญญาซื้อขายและร่างสัญญาเช่ามาให้ทนายทางด้านอิมมิเกรชั่น review ว่าทุกอย่างตรงตามกฎและเงื่อนไขของการขอ […]

Read More

วีซ่าพ่อค้าและวีซ่านักลงทุน

อาทิตย์นี้เราจะอธิบายเรื่องวีซ่าพ่อค้าและวีซ่านักลงทุน (E1/E2) วีซ่าพ่อค้า (E1) มีไว้สำหรับผู้ที่ต้องดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับการค้าขายสินค้าและหรือ บริการระหว่างประเทศ ยกตัวอย่างการบริการระหว่างประเทศเช่น การธนาคาร การประกันภัย การท่องเที่ยว การติดต่อสื่อสาร และอื่นๆ โดยที่กิจกรรมมากกว่า 50% ต้องเป็นการค้าและหรือการบริการระหว่างบริษัทในอเมริกาและบริษัทในประเทศไทย ส่วนวีซ่านักลงทุน (E2) มีไว้สำหรับนักลงทุนที่ประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจที่จัดตั้งในอเมริกา โดยที่การลงทุนดังกล่าวต้อง เป็นการลงทุนที่มากพอสมควร การลงทุนใดจัดว่ามากหรือน้อยให้พิจารณาจากประเภทของโครงการที่ลงทุน เช่นการลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ย่อมมีเงินลงทุนที่มากกว่าการลงทุนใน ร้านอาหาร และสัดส่วนของการลงทุนในโครงการที่เล็กเช่นร้านอาหารย่อมต้องมากกว่าการลง ทุนในโครงการใหญ่ วีซ่าประเภทนี้มีประโยชน์มากสำหรับผู้ประกอบการคนไทยหลายๆท่านที่ต้องการลง ทุนทำธุรกิจโดยเฉพาะการเปิดร้านอาหาร ผู้ที่ถือวีซ่าประเภทอื่นอยู่ (เช่น F,J, B, O, H, L) สามารถยื่นขอเปลี่ยนเป็นวีซ่านักลงทุนได้หากมีคุณสมบัติตรงตามที่กฎหมาย กำหนด กฎหมายไม่ได้กำหนดโควต้าไว้สำหรับการยื่นวีซ่านักลงทุนในแต่ละปี เพราะฉะนั้นท่านสามารถยื่นวีซ่าประเภทนี้เมื่อใดก็ได้ พนักงานหรือลูกจ้างของผู้ที่ถือวีซ่าพ่อค้าหรือวีซ่านักลงทุนก็สามารถเดิน ทางเข้ามาในอเมริกาเพื่อทำงานให้กับพ่อค้าหรือนักลงทุน โดยให้พ่อค้าหรือนักลงทุนยื่นขอวีซ่าให้ได้ หากมีคุณสมบัติตรงตามที่กฎหมายกำหนด เช่น หากทำงานในตำแหน่งผู้จัดการหรือมีคุณสมบัติพิเศษที่เป็นประโยชน์กับบริษัทใน อเมริกา และคุณสมบัติดังกล่าวไม่สามารถฝึกฝนได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ นอกจากนี้ครอบครัว(ประกอบไปด้วยสามีภรรยาและบุตรที่อายุต่ำกว่า 21 ปี) ของผู้ที่ถือวีซ่าพ่อค้าหรือวีซ่านักลงทุนหรือพนักงานของบุคคลดังกล่าว ก็สามารถเดินทางเข้ามาพร้อมกันกับผู้ที่ถือวีซ่านี้ โดยที่บุตรสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาลของอเมริกาได้จนกระทั่งเกรด 12 และสามารถเรียนในระดับมหาวิทยาลัยโดยชำระค่าเล่าเรียนในอัตราที่เท่ากับคน อเมริกันจนถึงอายุ […]

Read More

ยื่นขอวีซ่านักลงทุนจากไทยหรือขอเปลี่ยนสถานะเป็นนักลงทุนในอเมริกา แบบไหนง่ายกว่ากัน

คำถามจากผู้อ่าน ถ้าต้องการทำธุรกิจในอเมริกา ควรที่จะยื่นขอวีซ่านักลงทุนที่สถานฑูตอเมริกาที่ประเทศไทย (E2 VISA) หรือ เดินทางเข้ามาอเมริกาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวหรือวีซ่าอื่น แล้วมายื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา (CHANGE OF STATUS) ขั้นตอนแตกต่างกันอย่างไร และทำแบบไหนง่ายกว่า คำตอบ เอกสาร ค่าดำเนินการและระยะเวลาในการดำเนินการค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก ส่วนที่แตกต่างกันหลักๆคือ การยื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา ผู้ยื่นไม่ต้องไปสัมภาษณ์ที่อิมมิเกรชั่น ในทางตรงกันข้าม การขอวีซ่าจากประเทศไทย ผู้ยื่นต้องไปสัมภาษณ์ที่สถานฑูตค่ะ การยื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา อาจจะเหมาะกับผู้ที่ไม้ได้ต้องการเดินทางเข้าออกอเมริกาบ่อยนัก โดยหลักแล้วอิมมิเกรชั่นจะให้สถานะกับผู้ยื่นขอเปลี่ยนสถานะเป็นเวลาสองปี ซึ่งต่อได้เรื่อยๆตราบที่ยังประกอบธุรกิจอยู่ ถ้าเดินทางออกจากอเมริกาในระหว่างสองปีนี้ ผู้ยื่นต้องไปทำเรื่องขอเปลี่ยนหน้าวีซ่าจากนักท่องเที่ยวหรือวีซ่าอื่นที่ ถืออยู่เป็นวีซ่านักลงทุนที่สถานฑูตอเมริกาที่ประเทศไทย ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้ามาอเมริกาเพื่อบริหารธุรกิจต่อ แต่ถ้าไม่เดินทางออกเลยตลอดสองปี ก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนหน้าวีซ่าค่ะและต่ออายุที่อเมริกาได้เลยพอครบสองปี มีหลายๆท่านถามว่าการเปลี่ยนหน้าวีซ่านี้ยากมากมั้ย ตอบนะคะว่าไม่ยากหากมีเอกสารครบและธุรกิจยังดำเนินอยู่ตามปกติ สำหรับคนที่ยื่นขอวีซ่าจากที่ประเทศไทย โดยปกติสถานฑูตจะให้วีซ่าเป็นระยะเวลาหกเดือน หมายความว่าผู้ถือวีซ่าต้องเดินทางเข้ามาอเมริกาภายในหกเดือนนั้น เมื่อมาถึงอเมริกา CBP (Custom and Border Protection) จะประทับตราให้อยู่ได้สองปีหลังจากวันที่เดินทางเข้ามาค่ะ และถ้าต้องการเดินทางเข้าออกระหว่างหกเดือนนั้นก็สามารถทำได้ แต่ถ้าต้องการเดินทางหลังจากที่วีซ่าหมดอายุแล้ว ก็เดินทางได้เพียงแต่ต้องไปยื่นขอวีซ่าอีกครั้งก่อนเดินทางกลับเข้ามา อเมริกา Note สำหรับคนที่อยู่ในอเมริกาอยู่แล้วด้วยสถานะอื่น เช่นนักเรียน F1 หรือนักท่องเที่ยว B1/2 ก็สามารถยื่นขอเปลี่่ยนสถานะในอเมริกาได้เลย […]

Read More

แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงการยื่นขอวีซ่า EB5

ด้านล่างเป็นแนวทางการเปลี่ยนแปลง ที่จะเกิดขึ้นกับโปรแกรม EB5 รายการด้านล่างเป็นแค่แนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นแต่อิมมิเกรชั่นยังไม่ได้มีการออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด แต่ถ้าหากต้องการที่จะเริ่มทำ EB5 คุณอาจจะต้องการเริ่มเรื่องตั้งแต่ตอนนี้เพื่อใช้กฎเดิมที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ มีการเสนอให้คงโปรแกรม  EB5 ไว้จนวันที่ September 30, 2020 และให้มีการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้ เพิ่มจำนวนเงินลงทุนเป็น $800,000 สำหรับโครงการ TEAs (Targeted Employment Area) และเป็น $1.2 million สำหรับโครงการ Non-TEAs (Non- Targeted Employment Area) ให้อำนาจอิมมิเกรชั่นในการสั่งปิด regional centers ที่มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตรวจสอบประวัติของผู้บริหาร regional centers หรือ project developer ก่อนจะรับรองศูนย์ดังกล่าว ให้อำนาจอิมมิเกรชั่นในการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินลงทุน เช่น ให้ตรวจเอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษีย้อนหลังเจ็ดปี เงินที่ได้มาจากการให้ ต้องเป็นการให้จากคู่สมรส พ่อแม่ ลูก พี่น้อง หรือปู่ย่าตายาย เท่านั้น เงินส่วนที่ใช้จ่ายค่าดำเนินการของ regional centers หรือที่เรียกว่า […]

Read More