Tag: employee

อยากมาทำงานอเมริกา ขอวีซ่าอะไรได้บ้าง

คำตอบ มีหลายๆทางเลือก เช่น 1. H2B ซึ่งเป็นวีซ่าที่ออกให้กับคนที่จะมาทำงานระยะสั้น ๆ เป็นโปรเจคหรือตามสัญญาที่เซ็นกับนายจ้าง (สัญญาหนึ่งหรือสองปี) ขั้นตอนในการเตรียมเรื่องคล้ายกับการยื่นขอกรีนการ์ด คือต้องมีการทำ recruitment process วีซ่าประเภทนี้มีโควต้ารายปีจึงควรรีบยื่นทันที่ที่ทราบว่าต้องการให้พนักงานมา ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องอยู่ที่ประมาณสามถึงสี่เดือน ค่าใช้จ่ายสูงกว่าข้อ 2 & 3 2. E2 Employee หากร้านอาหารคุณมีหุ้นส่วนหรือเจ้าของร้านที่ถือวีซ่า E2 Investor คุณสามารถยื่นเรื่องให้พนักงานจากประเทศไทยมาทำงานที่นี่ได้ วีซ่าประเภทนี้เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากไม่จำกัดจำนวนพนักงานที่จะเข้ามาและพนักงานจะได้วีซ่าครั้งละสองปี วีซ่าต่ออายุได้เรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการยื่นวีซ่าทำงานประเภทอื่นและไม่มีโควต้ารายปี จึงค่อนข้างแน่นอนว่ายื่นแล้วจะผ่าน หากคุณสมบัติผู้ยื่นตรงตามตำแหน่งที่ยื่น ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องอยู่ที่ประมาณสามถึงสี่เดือน แต่หากลูกจ้างอยู่ในอเมริกา สามารถยื่นเรื่องแบบด่วน (premium processing) ได้ รอเพียง 15 วันเท่านั้นค่ะ ประเภทตำแหน่งที่ยื่นแบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือ กลุ่มที่เข้ามาทำงานด้านบริหาร การตลาด การเงิน ส่วนกลุ่มที่สอง คือ พวกที่มีทักษะเฉพาะเช่น พ่อครัว แม่ครัว ร้านอาหารและร้านสปา นิยมยื่นวีซ่าประเภทนี้ให้กับพนักงานโดยหาคนเข้ามาลงทุนในร้านก่อนเพื่อปูทางให้มีคนที่ถือวีซ่า E2 investor […]

Read More

อยากได้คนจากเมืองไทย มาทำงานที่ร้านอาหารในอเมริกา ยื่นวีซ่าประเภทไหนดี

คำตอบ มีหลายๆทางเลือก เช่น H2B ซึ่งเป็นวีซ่าที่ออกให้กับคนที่จะมาทำงานระยะสั้น ๆ เป็นโปรเจคหรือตามสัญญาที่เซ็นกับนายจ้าง (สัญญาหนึ่งหรือสองปี) ขั้นตอนในการเตรียมเรื่องคล้ายกับการยื่นขอกรีนการ์ด คือต้องมีการทำ recruitment process วีซ่าประเภทนี้มีโควต้ารายปีจึงควรรีบยื่นทันที่ที่ทราบว่าต้องการให้ พนักงานมา ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องอยู่ที่ประมาณสามถึงสี่เดือน ค่าใช้จ่ายสูงกว่าข้อ 2 & 3 E2 Employee หากร้านอาหารคุณมีหุ้นส่วนหรือเจ้าของร้านที่ถือวีซ่า E2 Investor คุณสามารถยื่นเรื่องให้พนักงานจากประเทศไทยมาทำงานที่นี่ได้ วีซ่าประเภทนี้เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากไม่จำกัดจำนวนพนักงานที่จะเข้ามาและพนักงานจะได้วีซ่าครั้งละสองปี วีซ่าต่ออายุได้เรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการยื่นวีซ่าทำงานประเภทอื่นและไม่มีโควต้ารายปี จึงค่อนข้างแน่นอนว่ายื่นแล้วจะผ่าน หากคุณสมบัติผู้ยื่นตรงตามตำแหน่งที่ยื่น ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องอยู่ที่ประมาณสามถึงสี่เดือน ประเภทตำแหน่งที่ยื่นแบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือ กลุ่มที่เข้ามาทำงานด้านบริหาร การตลาด การเงิน ส่วนกลุ่มที่สอง คือ พวกที่มีทักษะเฉพาะเช่น พ่อครัว แม่ครัว ร้านอาหารและร้านสปา นิยมยื่นวีซ่าประเภทนี้ให้กับพนักงานโดยหาคนเข้ามาลงทุนในร้านก่อนเพื่อปู ทางให้มีคนที่ถือวีซ่า E2 investor และให้คนนี้ยื่นขอวีซ่าทำงานให้กับพนักงานแบบไม่จำกัดจำนวน เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องคนงานในร้านในระยะยาว H1B เป็นวีซ่าที่ออกให้กับคนที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ คนที่มีคุณวุฒิและระดับการศึกษาในระดับปริญญาตรีเป็นอย่างต่ำ เช่น ตำแหน่งด้านการตลาด ด้านการเงิน […]

Read More

ธุรกิจร้านอาหารไทยในอเมริกา

สรุปเรื่องที่ควรจะทราบก่อนที่จะเข้ามาทำธุรกิจร้านอาหารไทยในอเมริกา เพื่อเป็นข้อมูลให้กับนักธุรกิจและนักลงทุนที่สนใจจะทำธุรกิจร้านอาหารในอเมริกา 1. รูปแบบการลงทุน การเปิดร้านอาหารมีรูปแบบการลงทุนหลักๆประมาณสามแบบ 1) เข้าไปซื้อหุ้นจากหุ้นส่วนเดิม (share purchase) ของธุรกิจที่มีอยู่แล้ว หรือ 2) เซ้งร้าน (take-over) หรือ 3) ทำร้านขึ้นใหม่ (start-up) ถ้าหากคุณต้องการขอวีซ่านักลงทุน E2 คุณต้องมีเงินลงทุนประมาณ $40,000 และต้องถือหุ้นอย่างต่ำ 50% 2. พ่อครัวแม่ครัว สิ่งต่อมาที่ผู้ประกอบการจะต้องพิจารณาก็คือ เรื่องเชฟหรือพ่อครัวแม่ครัวที่จะเข้ามาทำงานในร้าน การหาเชฟคนไทยที่มีประสบการณ์ทำงานและมีคุณสมบัติอื่นๆ เช่นความอดทน ซื่อสัตย์ และขยันเป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องวางแผนให้ดีเนื่องจากการหาเชฟในอเมริกาไม่ได้ง่ายนัก และถึงจะหาได้แล้วการจะให้คนนั้นทำงานให้กับร้านคุณนานๆก็ไม่ง่ายเช่นกันเพราะว่าการจ้างงานเชฟไทยในอเมริกามีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ร้านอาหารไทยมีมากกว่าจำนวนเชฟ เพราะฉะนั้นเชฟไทยที่มีประสบการณ์ทำงานก็สามารถต่อรองค่าแรงและหางานทำได้ไม่ยากนัก ทางออกหนึ่งที่หลายๆร้านเลือกทำ คือการยื่นใบทำงานให้กับเชฟจากประเทศไทยมาทำงานที่ร้านอาหารตนเองโดยตรง (E2 essential employee visa) เพราะว่าเชฟต้องทำงานให้กับร้านอาหารที่ยื่นสปอนเซอร์ตนเองมาเท่านั้น ทันทีที่เชฟย้ายไปทำงานร้านอื่นโดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากอิมมิเกรชั่น (คือยังไม่มีการยื่นเรื่องขอเปลี่ยนร้าน) สถานะทางอิมมิเกรชั่นของเชฟจะขาดทันที 3. การจัดตั้งธุรกิจ จดชื่อทางการค้า ขอเลขที่เสียภาษี มีการจดทะเบียนธุรกิจหลายประเภทเช่น LLC / Corporation แต่ละรูปแบบเสียภาษีแตกต่างกันไป เมื่อคุณจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเรียบร้อยแล้วสามารถไปยื่นขอจดชื่อทางการค้าของร้าน […]

Read More

การยื่นขอวีซ่า E2 Chef ให้พ่อครัว แม่ครัว

สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนยื่นขอวีซ่าหรือขอเปลี่ยนสถานะประเภทนี้ 1. คุณสมบัติของผู้สมัคร หลักๆเลยผู้สมัครควรจะต้องมีประสบการณ์ทำงานครัวไทยและมีหนังสือรับรองการทำงานเพื่อพิสูจน์ว่าเคยทำงานจริง โดยประสบการณ์ดังกล่าวจะเป็นประสบการณ์ทำงานจากประเทศไทยเท่านั้นหรือจะเป็นประสบการณ์ทำงานในต่างประเทศด้วยก็ได้ ถ้าหากไม่มีประสบการณ์ทำงานด้านนี้เลยแต่ว่าเรียนจบมาทางด้านการทำอาหารก็มีโอกาสขอวีซ่าผ่าน ทั้งนี้ต้องให้ทนายช่วยรีวิว Resume ของผู้สมัครเพื่อประเมินโอกาสในการได้วีซ่า ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วมาก แต่ควรจะพูดทักทายพอได้เพราะจำเป็นต้องสื่อสารได้บ้างเวลาไปสัมภาษณ์วีซ่าในกรณีขอวีซ่าจากประเทศไทย ถ้าหากยื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา เวลายื่นเรื่องเป็นการยื่นเอกสารเข้าไปที่อิมมิเกรชั่นเท่านั้นและไม่มีสัมภาษณ์ 2. ระยะเวลาในการเตรียมวีซ่าและรอผล แบ่งการยื่นออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือยื่นขอวีซ่าจากประเทศไทยที่สถานฑูตอเมริกาที่กรุงเทพ ใช้เวลารวมแล้วประมาณหนึ่งเดือนครึ่งสำหรับเคสที่เอกสารพร้อม โดยสามารถยื่นเรื่องได้ทันทีที่วีซ่าของนักลงทุน E2 investor ผ่าน กลุ่มที่ 2 คือ สำหรับคนที่ต้องการยื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา (สำหรับคนที่เข้ามาเป็นนักเรียน นักท่องเที่ยว หรือเข้ามาด้วยสถานะอื่นๆและต้องการเปลี่ยนสถานะเป็น E2 chef ในอเมริกา) ทั้งนี้การเปลี่ยนสถานะในอเมริกามีการยื่นสองประเภท คือยื่นเรื่องแบบด่วน (premium processing) จะทราบผลภายใน 15 วันทำการหลังจากยื่นเรื่องและยื่นเรื่องแบบธรรมดา (regular processing) ทราบผลหลังยื่นเรื่องประมาณ 3-6 เดือน 3. สัญญาจ้างงาน และระยะเวลาการทำงานกับนายจ้าง ในสัญญาจ้างงานจะมีการระบุรายได้ต่อชั่วโมงที่เชฟจะได้รับจากการทำงาน โดยค่าแรงต่อชั่วโมงต้องไม่น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำในรัฐที่ร้านอาหารตั้งอยู่ สามารถเข้าเช็คได้ที่เวบนี้ https://www.dol.gov/whd/minwage/america.htm และสิทธิประโยชน์อื่นๆที่นายจ้างตกลงให้ […]

Read More

เทรนด์การอนุมัติวีซ่านักลงทุน E2 ในยุครัฐบาลทรัมป์

เทรนด์การอนุมัติวีซ่านักลงทุน E2 ในยุครัฐบาลทรัมป์ มีคำถามจากผู้อ่านเข้ามาค่อนข้างมากเรื่องความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และแนวโน้มการอนุมัติการยื่นขอวีซ่านักลงทุน E2 ตั้งแต่ทรัมป์เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ขออนุญาตตอบตามประเภทของวีซ่าดังนี้ 1.วีซ่านักลงทุน (E2 Investor) แนวโน้มการอนุมัติเรื่องยังสูงตามปกติหากเอกสารที่เตรียมครบถ้วนและผู้ยื่นมีคุณสมบัติตรงตามกับเงื่อนไขการขอวีซ่า โดยที่สำนักงานเราแนะนำให้มีเงินลงทุนอย่างน้อย $40,000 ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจขึ้นใหม่, เซ้งธุรกิจต่อจากเจ้าของเดิมหรือซื้อหุ้นในธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ท่านที่สนใจยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ควรได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องตั้งแต่เรื่องแหล่งที่มาของเงินลงทุน การทำสัญญาซื้อขายและการโอนเงินลงทุนที่ถูกต้อง 2. วีซ่าพนักงาน (E2 essential employee) สำหรับตำแหน่งพ่อครัวแม่ครัวในธุรกิจร้านอาหาร หรือตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะในธุรกิจอื่นๆ รัฐบาลนี้ค่อนข้างเน้นเรื่องประสบการณ์ทำงานของผู้ที่ยื่นขอวีซ่า โดยต้องดูว่าตำแหน่งที่จะเข้ามาทำงานและประสบการณ์ที่ผ่านมาของผู้สมัครมีความคล้ายคลึงกันมากน้อยแค่ไหน และความจำเป็นในการจ้างงานแรงงานจากประเทศไทยของนายจ้าง อีกทั้งขนาดของธุรกิจที่จ้างงานก็มีผลต่อการอนุมัติวีซ่าเช่นกัน หากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีฐานลูกค้ามากและมีรายได้ต่อปีสูงย่อมมีความจำเป็นในการจ้างแรงงานที่มีทักษะเฉพาะหลายตำแหน่งจากประเทศไทย ส่วนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง จะยื่นขอวีซ่าให้พนักงานมาได้ตามความจำเป็นและขนาดของธุรกิจ หากท่านต้องการให้สำนักงานประเมินคุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าพนักงานเพื่อดูความเป็นไปได้ของการยื่นเรื่อง สามารถโทรเข้ามาติดต่อได้ที่เบอร์ +16314648471 หรือแอดไลน์ line id globalvisanow วีซ่าทั้งสองประเภทนี้ยังไม่มีแนวโน้มจะถูกยกเลิก เนื่องจากมีมายาวนานมากกว่า 100 ปีและเป็นวีซ่าที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอเมริกา เพราะส่งเสริมให้มีการนำเงินเข้ามาลงทุนในอเมริกา และให้มีการจ้างงานคนอเมริกันเพิ่มขึ้นอีกด้วย

Read More

ยื่นเรื่องวีซ่านักลงทุนและวีซ่าพนักงานนักลงทุนเข้าไปพร้อมกันทีเดียวได้หรือไม่

คำถาม นักลงทุนที่สนใจจะซื้อธุรกิจหรือเข้าหุ้นในธุรกิจในอเมริกาและต้องการนำพนักงานมาทำงานด้วยจากประเทศไทย สามารถจะยื่นขอวีซ่านักลงทุน (E2 investor) และวีซ่าพนักงาน (E2 essential employee)เข้าไปพร้อมกันเลยได้หรือไม่ เพื่อที่จะได้ให้พนักงานมาเริ่มงานได้เร็วและเรื่องผ่านไปพร้อมๆกัน คำตอบ มีวิธียื่นหลายๆวิธี บางท่านเลือกที่จะรอให้วีซ่าของนักลงทุนผ่านก่อนแล้วค่อยยื่นเรื่องของพนักงานตามเข้าไป เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องของคนหลักหรือนักลงทุนผ่านแน่นอน เพราะว่าสถานฑูตจะพิจารณาเรื่องของพนักงานก็ต่อเมื่อเคสของนักลงทุนผ่านแล้วเท่านั้น ถ้าเลือกวิธีนี้จะมี gap ระหว่างเคสนักลงทุนและเคสพนักงานอยู่ที่ประมาณ 1.5-2  เดือนถ้าเริ่มเรื่องของพนักงานทันทีที่เรื่องคนหลักผ่าน อย่างไรก็ดี บางท่านเลือกที่ยื่นทั้งสองเรื่องเข้าไปในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกันถ้าเคสนักลงทุนดูแล้วโอกาสผ่านสูงและมีความจำเป็นต้องให้พนักงานมาทำงานอย่างเร็วที่สุด สรุป คือ พิจารณาตามความเหมาะสมและขึ้นกับการวางแผนเรื่องระยะเวลาและความจำเป็นที่จะต้องนำคนงานมา ทั้งนี้ทางสำนักงานจะช่วยประเมินความเป็นไปได้ของเคสนักลงทุนก่อนว่ามีโอกาสผ่านกี่เปอร์เซ็นต์เพื่อให้นักลงทุนใช้ข้อมูลตรงนี้ตัดสินใจว่าจะทำเรื่องพนักงานไปพร้อมๆกันเลยหรือไม่ โดยที่ธุรกิจหนึ่งจะนำพนักงานเข้ามาจากประเทศไทยได้กี่คนนั้นขึ้นอยู่กับความจำเป็นและขนาดของธุรกิจ

Read More

การต่ออายุสถานะนักลงทุน E2 และสถานะพนักงาน E2 employee

วีซ่านักลงทุนคือวีซ่าที่อนุญาตให้นักลงทุนสัญชาติไทยเดินทางเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศอเมริกาได้ หลังจากที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่านักลงทุนแล้ว ตมจะประทับตราให้นักลงทุนอยู่ในอเมริกาด้วยสถานะนักลงทุนได้เป็นระยะเวลา 2 ปี พอใกล้ครบกำหนด 2 ปีแล้ว ท่านที่ต้องการอยู่ประกอบธุรกิจต่อสามารถยื่นเรื่องขอต่ออายุสถานะนักลงทุนในอเมริกาได้เลย หรือจะเดินทางออกจากอเมริกาเพื่อไปขอวีซ่านักลงทุนที่ประเทศไทยก็ได้เมื่อใกล้ครบกำหนดสองปีและเดินทางเข้ามาด้วยวีซ่านักลงทุน 1. คำถาม ควรเริ่มทำเรื่องต่ออายุประมาณกี่เดือนก่อนที่สถานะจะหมด คำตอบ อย่างช้าที่สุดควรเริ่มก่อนสถานะเดิมหมดประมาณ 2 เดือน หลายๆท่านเตรียมวางแผนเรื่องการต่ออายุไว้เลยทันทีที่ได้วีซ่าหรือสถานะนักลงทุนมาครั้งแรกเนื่องจากต้องมีการวางแผนเรื่องการจ้างงาน รายได้ของธุรกิจที่เหมาะสม และเอกสารที่จำเป็นต้องรวบรวมไว้ตลอดระยะเวลา 2 ปีก่อนสถานะจะหมด 2. คำถาม เอกสารที่ควรมีในการต่ออายุสถานะหรือทำวีซ่านักลงทุนพอครบกำหนดสองปี คำตอบ อิมมิเกรชั่นและสถานฑูตมักจะพิจารณาจากหลายๆปัจจัยว่าจะให้ต่ออายุหรือไม่ เช่นเรื่องยอดขายของธุรกิจ รายได้ของนักลงทุน การจ้างงานคนอเมริกันและหรือคนถือใบเขียว ในกรณีที่ผู้ขอต่ออายุเป็นลูกจ้าง E2 employee ของนักลงทุน สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ความต่อเนื่องของการทำงานและความจำเป็นของตำแหน่งที่ยื่นขอต่ออายุ 3. คำถาม ทางเลือกในการต่ออายุ ควรทำเรื่องที่อเมริกาหรือเดินทางกลับไปขอวีซ่าที่ประเทศไทย คำตอบ จะทำเรื่องต่ออายุในอเมริกาหรือขอวีซ่าที่ประเทศไทยก็ได้ หากเลือกที่จะทำเรื่องขอวีซ่าที่ประเทศไทย ข้อดีคือคุณจะได้เดินทางเข้าออกเป็นระยะเวลา 6 เดือนโดยไม่ต้องไปขอวีซ่าใหม่ภายในระยะเวลา 6 เดือนนั้น และเมื่อเดินทางเข้ามาแต่ละครั้ง ตมจะให้อยู่ในอเมริกา 2 ปีนับจากวันที่เดินทางเข้ามา ส่วนท่านที่ไม่มีแพลนที่จะเดินทางสามารถทำเรื่องต่ออายุในอเมริกาได้เลย หากเรื่องขอต่ออายุอนุมัติแล้วจะได้อยู่ต่ออีกเป็นระยะเวลา 2 […]

Read More

การจ้างพ่อครัวแม่ครัวมาจากประเทศไทย เริ่มต้นอย่างไรและขอวีซ่าอะไรดี

คำถาม การจ้างพ่อครัวแม่ครัวมาจากประเทศไทย เริ่มต้นอย่างไรและขอวีซ่าอะไรดี คำตอบ วิํธีที่เร็วที่สุดและค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดคือ การขอวีซ่า E2 Employee ให้กับพ่อครัวหรือแม่ครัว โดยที่ร้านอาหารคุณต้องมีหุ้นส่วนหรือเจ้าของร้านที่ถือวีซ่าหรือสถานะนักลงทุน E2 Investor จีงจะทำเรื่องจ้างพนักงานจากประเทศไทยเข้ามาด้วยวิธีนี้ได้ วีซ่า E2 Employee เป็นที่นิยมมาก เนื่องจาก 1. ไม่จำกัดจำนวนพนักงานที่จะเข้ามา ทั้งนี้การพิจารณาเรื่องจำนวนที่เหมาะสมก็ขึ้นกับขนาดของร้าน 2. พนักงานจะได้สถานะครั้งละ 2 ปี ต่ออายุสถานะในอเมริกาได้เรื่อยๆ ไม่ต้องเดินทางกลับไปขอวีซ่าที่ไทยพอครบ 2 ปี 3. ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการยื่นขอวีซ่าทำงานประเภทอื่นและไม่มีโควต้ารายปี 4. ระยะเวลาในการเตรียมเรื่องและรอผลจากประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 1 เดือนครึ่ง แต่หากลูกจ้างอยู่ในอเมริกาด้วยสถานะอื่นๆเช่นนักท่องเที่ยว หรือนักเรียน สามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะแบบด่วน (premium processing) ได้ เตรียมเรื่องประมาณ 1 อาทิตย์และรอผลเพียง 15 วันเท่านั้นค่ะ 5. เงืื่อนไขในวีซ่าคือพนักงานต้องทำงานให้กับร้านที่ยื่นขอวีซ่าให้เท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ต้องมีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งที่ยื่นด้วยนะคะ

Read More

คำถาม คุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นขอวีซ่า E2 employee มีอะไรบ้าง

คำตอบ ตำแหน่งในการยื่นวีซ่า E2 employee แบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆคือ ตำแหน่งทางด้าน Management/ Supervisory Positions สำหรับผู้ที่มีประวัติการศึกษาหรือประสบการณ์ด้านการบริหาร  ตำแหน่งในครัว Chef/ Sous chef สำหรับผู้ที่มีประวัติการศึกษาหรือประสบการณ์ด้านการทำอาหาร สำหรับท่านที่ไม่ได้มีประสบการณ์ทำงานด้านที่จะยื่นโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น ต้องการยื่นขอทำงานในตำแหน่งผู้จัดการร้านอาหาร (E2 employee restaurant manager) แต่มีประสบการณ์ทำงานด้านการบริหารบริษัทรถยนต์ก็สามารถยื่นได้ สำนักงานเราเคยยื่นเคสแบบนี้ผ่านมาแล้ว ขั้นตอนหลักคือเราจะส่งเอกสาร คือ degree, transcript and work reference letters ไปทำ evaluation เพื่อให้อิมมิเกรชั่นเห็นว่าคุณมีคุณสมบัติและประสบการณ์ตรงตามกับ Job Description ของตำแหน่งที่จะยื่นค่ะ หากต้องการให้สำนักงานเราประเมินให้ว่าคุณสามารถยื่นขอวีซ่าทำงาน E2 employee ได้หรือไม่ ให้ email resume มาที่ info@globalvisanow.com

Read More