Tag: วีซ่าทำงาน

ถาม ตอบ 4 คำถามสุดฮิตด้านอิมมิเกรชั่น

ถ้าหากอยู่เกินกำหนด (โดด) จะเกิดผลอะไรตามมาบ้าง ก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าตม อนุญาตให้คุณอยู่ในอเมริกานานแค่ไหน โดยสามารถเข้าเช็คที่ Link นี้ https://i94.cbp.dhs.gov/I94/#/home โดยพิมพ์ ชื่อ วันเกิด เลขที่พาสปอร์ต เพื่อดูว่าคุณสามารถอยู่ในอเมริกาได้ถึงวันที่เท่าไหร่ เมื่อรู้แล้วว่าตม อนุญาตให้อยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ ถึงมาเริ่มดูว่าคุณอยู่เกินกำหนดมานานแค่ไหนแล้ว โดยทั่วไป หากอยู่เกินกำหนดแต่ยังไม่เกิน 180 วัน หากคุณเดินทางออกนอกอเมริกาและจะขอวีซ่าประเภทอื่นเข้ามาใหม่ จะไม่ติดแบน อย่างไรก็ดีคุณควรปรึกษาทนายเรื่องความเป็นไปได้ในการยื่นวีซ่าประเภทอื่นเข้ามาเพราะว่าการอยู่เกินกำหนดจะทำให้เคสมีความซับซ้อนมากขึ้น หากว่าอยู่เกิน 180 วันแต่ยังไม่เกิน 1 ปีจะติดแบน 3 ปีพอเดินทางออกนอกอเมริกา กรณีสุดท้ายคืออยู่เกิน 1 ปีจะติดแบนเป็นระยะเวลา 10 ปีหากเดินทางออกนอกอเมริกา สำหรับท่านที่อยู่เกินกำหนดและไม่ได้เดินทางออกนอกอเมริกา แล้วต้องการจะยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานะในอเมริกาเป็นสถานะอื่น โดยทั่วไปแล้วทำไม่ได้เนื่องจากไม่มีสถานะรองรับในการยื่นขอเปลี่ยนสถานะ (change of status) ทั้งนี้มีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่อยู่เกินกำหนดและยื่นขอกรีนการ์ดบางประเภทที่สามารถยื่นขอยกเว้นโทษการอยู่เกินกำหนดได้ ถ้าเข้ามาในอเมริกาด้วยวีซ่าประเภทหนึ่ง สามารถยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานะในอเมริกาเป็นอีกประเภทหนึ่งได้หรือไม่ โดยทั่วไปแล้วคุณสามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกาจากสถานะหนึ่งเป็นอีกสถานะหนึ่งได้ เช่น คุณเดินทางเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยว B2 และต้องการเปลี่ยนสถานะเป็นนักเรียน F1 เพื่อเรียนหนังสือในอเมริกา หรือ เข้ามาเป็นนักท่องเที่ยว B2 […]

Read More

อยากมาทำงานอเมริกา ขอวีซ่าประเภทไหนง่ายที่สุด

อยากมาทำงานอเมริกา ขอวีซ่าประเภทไหนง่ายและเร็วทีสุด คำตอบ ขึ้นกับสถานการณ์เพราะแต่ละเคสไม่เหมือนกันค่ะ ตัวอย่างโดยทั่วไปคือ 1. หากมีนายจ้างยินดีช่วยเหลือและคุณมีวุฒิการศึกษาที่อยู่ในระดับปริญญาตรี คุณอาจจะยื่นขอวีซ่าทำงานประเภท H1B ได้ วีซ่าประเภทนี้มีข้อจำกัดอย่างหนึ่งคือ ปีหนึ่งมีโควต้าจำกัด และต้องยื่นในช่วงเวลาที่เปิดรับสมัครเท่านั้น คือช่วงเดือนเมษายน 2. ในกรณีที่เป็นการ transfer ภายในบริษัท วีซ่าประเภท L1 น่าจะเป็นวีซ่าทีเหมาะสมที่สุด ระยะเวลาในการเตรียมและพิจารณาเรื่องประมาณ 3 เดือน 3. หากมีธุรกิจส่วนตัว และมีเงินลงทุนมากพอควร ประมาณ $40,000 ขึ้นไป อาจจะยื่นขอวีซ่านักลงทุน E2 ระยะเวลาในการเตรียมและพิจารณาเรื่องประมาณ 3 เดือน 4. หากมีธุรกิจส่วนตัว แต่ไม่มีเงินลงทุน อาจจะยื่นขอ H1B แบบ self-sponsorship ระยะเวลาในการเตรียมและพิจารณาเรื่องประมาณ 3 เดือน 5. หากต้องการมา ทำงานร้านอาหาร ทำงานในฟาร์ม ทำงานในโรงงานหรืองานใช้แรงงานลักษณะอื่นๆ จะมีวีซ่าอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่า H2B ระยะเวลาในการเตรียมและพิจารณาเรื่องประมาณ 3-4 เดือน

Read More

การซื้อกิจการหรือเซ้งกิจการต่อจากเจ้าของเดิม

สำหรับท่านที่สนใจจะย้ายมาอยู่อเมริกาและทำธุรกิจ การซื้อกิจการหรือเซ้งกิจการต่อจากเจ้าของเดิมก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง เนื่องจากท่านสามารถตรวจสอบประวัติเรื่องรายได้ของธุรกิจจากคนขายได้เลยและไม่ต้องใช้เวลานานในการหาทำเล ซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็นและตกแต่งร้านเหมือนในเคส start-up และท่านสามารถหาธุรกิจหลายๆประเภทที่ท่านสนใจเพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือกก่อนที่จะตัดสินใจซื้อกิจการ ปัจจัยที่ท่านควรจะพิจารณาก่อนจะตัดสินใจซื้อกิจการ ที่สามารถไปยื่นขอวีซ่านักลงทุน E2 มีดังนี้ 1. ธุรกิจดังกล่าวมีการจ้างพนักงานหรือไม่ และธุรกิจดังกล่าวมีโอกาสจะเติบโตและจ้างพนักงานมากขึ้นในอนาคตหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สถานฑูตหรืออิมมิเกรชั่นพิจารณาก่อนที่จะอนุมัติวีซ่าหรือสถานะนักลงทุนให้ คือดูว่าธุรกิจมีการจ้างพนักงานกี่ท่าน และธุรกิจนี้มีโอกาสที่จะสร้างงานให้กับคนอเมริกันมากน้อยแค่ไหน หากธุรกิจที่ท่านสนใจจะซื้อไม่มีการจ้างพนักงานเต็มเวลาเลย โอกาสที่จะได้วีซ่าก็จะลดลง เนื่องจากสถานฑูตหรืออิมมิเกรชั่นจะมองว่าธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจขนาดเล็กจนเกินไปและไม่ได้สร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจอเมริกามากเท่าที่ควร ยกตัวอย่างเช่น หากท่านสนใจจะซื้อธุรกิจขนาดเล็กที่เปิดมานานแล้วกว่าสิบปี แต่ไม่มีประวัติการจ้างพนักงานเลยตลอดระยะเวลาสิบปี เคสนี้จะมีโอกาสในการได้วีซ่าลดน้อยลง ยกเว้นมีการเสนอแผนทางธุรกิจที่ชัดเจนต่อสถานฑูตหรืออิมมิเกรชั่นว่าจะมีการจ้างพนักงานทันทีที่วีซ่าอนุมัติ 2. ธุรกิจดังกล่าวมีกำไรมากน้อยแค่ไหน หลายๆท่านอาจจะสนใจซื้อธุรกิจที่คนขายตั้งราคาไว้ไม่สูงมาก เพราะเล็งเห็นว่าสามารถปรับปรุงสถานที่ และทำแผนการตลาดใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้าได้ ทั้งนี้ก่อนจะตัดสินใจซื้อควรจะดูเอกสารทางการเงินและเอกสารภาษีของคนขายก่อนเพื่อดูว่าธุรกิจดังกล่าวมีโอกาสเติบโตขึ้นมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่ท่านจะได้สามารถวางแผนและเสนอแผนทางธุรกิจที่มีผลกำไรต่อสถานฑูตหรืออิมมิเกรชั่นได้ เอกสารเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดว่าคุณสามารถบริหารธุรกิจดังกล่าวให้มีผลกำไรได้หลังจากการเซ้งกิจการแล้ว 3. การซื้อขายธุรกิจต้องเสร็จสิ้นแล้วท่านถึงจะไปขอวีซ่านักลงทุนได้ ท่านผู้อ่านหลายๆท่านจึงสงสัยว่าถ้าหากจ่ายเงินซื้อธุรกิจไปแล้วสุดท้ายหากวีซ่าไม่ผ่านจะทำอย่างไร วิธีหนึ่งที่คู่สัญญาบางคู่ใช้คือ การใช้บริการ Escrow account ซึ่งเป็นการนำเงินลงทุน (เงินที่จะใช้ซื้อกิจการ) โอนเข้าไปในบัญชีของบริษัท Escrow โดยกำหนดเงื่อนไขใน Escrow Agreement ให้ release เงินดังกล่าวไปยังผู้ขายก็ต่อเมื่อวีซ่านักลงทุนผ่านแล้ว ทันทีที่วีซ่าผ่าน บริษัท Escrow ก็จะโอนเงินไปยังบัญชีผู้ขาย ถ้าหากวีซ่าไม่ผ่าน เงินก็จะถูกโอนกลับไปยังบัญชีนักลงทุน […]

Read More

อยากพาครอบครัวย้ายไปอยู่อเมริกาและทำธุรกิจ ควรเริ่มตรงไหน ขอวีซ่าอะไร

เริ่มตรงไหนดี ? วิธีที่ 1 เป็นวิธีที่คนส่วนมากนิยมทำคือเดินทางเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว B1/B2 และมาดูย่านธุรกิจที่สนใจ โดยก่อนที่จะเดินทางเข้ามาควรหาข้อมูลเรื่อง ราคาของกิจการที่สนใจที่จะเซ้ง หรือ ค่าเช่ารายเดือนของห้องที่สนใจจะขอเช่าเพื่อทำธุรกิจ โดยอาจจะหาไว้หลายๆทางเลือกเพื่อเปรียบเทียบเรื่องราคาและ location ลูกค้าบางท่านใช้บริการของ broker/realtor เพื่อที่จะได้มีคนช่วยประสานงานกับคนขายหรือคนให้เช่าแทนตนเองก็จะทำให้การหาสถานที่ง่ายขึ้น เมื่อเดินทางเข้ามาแล้วก็มาสำรวจและตัดสินใจว่าต้องการที่จะเซ้งกิจการไหนหรือขอเช่าห้องไหนเพื่อทำธุรกิจ ในกรณีที่จะมาเช่าห้องเพื่อทำธุรกิจ start-up อาจจะต้องหาข้อมูลและติดต่อขอ quote ราคาจากผู้รับเหมาที่จะจ้างมาทำร้านหรือตกแต่งร้านด้วย ท่านที่เข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวสามารถที่จะเลือกยื่นขอเปลี่ยนสถานะจากนักท่องเที่ยวเป็นนักลงทุนในอเมริกาได้เลย หรือจะกลับไปยื่นเรื่องขอวีซ่านักลงทุนที่ประเทศไทยก็ได้ วิธีที่ 2 สำหรับท่านที่ไม่สะดวกเดินทางเข้ามาอเมริกาเพื่อมาสำรวจกิจการด้วยตนเอง หรือ ท่านที่ขอวีซ่าท่องเที่ยวแล้วไม่ผ่านแต่อยากจะซื้อธุรกิจในอเมริกาและขอวีซ่านักลงทุน E2 จากประเทศไทยเลย ทางเลือกที่ทำได้ก็คือ หาหุ้นส่วนที่อเมริกาเพื่อให้หุ้นส่วนช่วยสำรวจ หาร้าน และประสานงานเรื่องการซื้อขายร้าน การเช่าร้าน การขอใบอนุญาต โดยที่ผู้ยื่นขอวีซ่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาอเมริกาเลยจนกระทั่งวีซ่านักลงทุนผ่าน หรือ หาธุรกิจที่เจ้าของร้านยินดีขายหุ้นอย่างน้อย 50% ให้ โดยสำนักงานเราสามารถช่วยประสานงานตั้งแต่การทำสัญญาซื้อขายหุ้น การโอนเงินข้ามประเทศ รวบรวมเอกสารต่างๆเพื่อขอวีซ่า วิธีนี้หลายๆท่านนิยมใช้เพราะว่าเดินเรื่องได้เร็วกว่าการเซ้งร้านหรือการทำ start-up และนักลงทุนก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาอเมริกาเลยจนกระทั่งวีซ่านักลงทุนผ่าน ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหน ควรเริ่มติดต่อทนายด้านอิมมิเกรชั่นเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องการวางมัดจำที่ถูกต้อง การโอนเงินลงทุน การทำสัญญาต่างๆไม่ว่าจะเป็นสัญญาซื้อขายหุ้น สัญญาซื้อขายร้านหรือสัญญาเช่าทันทีที่ได้ร้านหรือธุรกิจที่สนใจจะซื้อหุ้น เซ้งหรือเช่า เพื่อที่จะได้คำแนะนำที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นและไปขอวีซ่านักลงทุนได้ […]

Read More

เทรนด์การอนุมัติวีซ่านักลงทุน E2 ในยุครัฐบาลทรัมป์

เทรนด์การอนุมัติวีซ่านักลงทุน E2 ในยุครัฐบาลทรัมป์ มีคำถามจากผู้อ่านเข้ามาค่อนข้างมากเรื่องความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และแนวโน้มการอนุมัติการยื่นขอวีซ่านักลงทุน E2 ตั้งแต่ทรัมป์เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ขออนุญาตตอบตามประเภทของวีซ่าดังนี้ 1.วีซ่านักลงทุน (E2 Investor) แนวโน้มการอนุมัติเรื่องยังสูงตามปกติหากเอกสารที่เตรียมครบถ้วนและผู้ยื่นมีคุณสมบัติตรงตามกับเงื่อนไขการขอวีซ่า โดยที่สำนักงานเราแนะนำให้มีเงินลงทุนอย่างน้อย $40,000 ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจขึ้นใหม่, เซ้งธุรกิจต่อจากเจ้าของเดิมหรือซื้อหุ้นในธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ท่านที่สนใจยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ควรได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องตั้งแต่เรื่องแหล่งที่มาของเงินลงทุน การทำสัญญาซื้อขายและการโอนเงินลงทุนที่ถูกต้อง 2. วีซ่าพนักงาน (E2 essential employee) สำหรับตำแหน่งพ่อครัวแม่ครัวในธุรกิจร้านอาหาร หรือตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะในธุรกิจอื่นๆ รัฐบาลนี้ค่อนข้างเน้นเรื่องประสบการณ์ทำงานของผู้ที่ยื่นขอวีซ่า โดยต้องดูว่าตำแหน่งที่จะเข้ามาทำงานและประสบการณ์ที่ผ่านมาของผู้สมัครมีความคล้ายคลึงกันมากน้อยแค่ไหน และความจำเป็นในการจ้างงานแรงงานจากประเทศไทยของนายจ้าง อีกทั้งขนาดของธุรกิจที่จ้างงานก็มีผลต่อการอนุมัติวีซ่าเช่นกัน หากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีฐานลูกค้ามากและมีรายได้ต่อปีสูงย่อมมีความจำเป็นในการจ้างแรงงานที่มีทักษะเฉพาะหลายตำแหน่งจากประเทศไทย ส่วนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง จะยื่นขอวีซ่าให้พนักงานมาได้ตามความจำเป็นและขนาดของธุรกิจ หากท่านต้องการให้สำนักงานประเมินคุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าพนักงานเพื่อดูความเป็นไปได้ของการยื่นเรื่อง สามารถโทรเข้ามาติดต่อได้ที่เบอร์ +16314648471 หรือแอดไลน์ line id globalvisanow วีซ่าทั้งสองประเภทนี้ยังไม่มีแนวโน้มจะถูกยกเลิก เนื่องจากมีมายาวนานมากกว่า 100 ปีและเป็นวีซ่าที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอเมริกา เพราะส่งเสริมให้มีการนำเงินเข้ามาลงทุนในอเมริกา และให้มีการจ้างงานคนอเมริกันเพิ่มขึ้นอีกด้วย

Read More

ยื่นเรื่องวีซ่านักลงทุนและวีซ่าพนักงานนักลงทุนเข้าไปพร้อมกันทีเดียวได้หรือไม่

คำถาม นักลงทุนที่สนใจจะซื้อธุรกิจหรือเข้าหุ้นในธุรกิจในอเมริกาและต้องการนำพนักงานมาทำงานด้วยจากประเทศไทย สามารถจะยื่นขอวีซ่านักลงทุน (E2 investor) และวีซ่าพนักงาน (E2 essential employee)เข้าไปพร้อมกันเลยได้หรือไม่ เพื่อที่จะได้ให้พนักงานมาเริ่มงานได้เร็วและเรื่องผ่านไปพร้อมๆกัน คำตอบ มีวิธียื่นหลายๆวิธี บางท่านเลือกที่จะรอให้วีซ่าของนักลงทุนผ่านก่อนแล้วค่อยยื่นเรื่องของพนักงานตามเข้าไป เพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องของคนหลักหรือนักลงทุนผ่านแน่นอน เพราะว่าสถานฑูตจะพิจารณาเรื่องของพนักงานก็ต่อเมื่อเคสของนักลงทุนผ่านแล้วเท่านั้น ถ้าเลือกวิธีนี้จะมี gap ระหว่างเคสนักลงทุนและเคสพนักงานอยู่ที่ประมาณ 1.5-2  เดือนถ้าเริ่มเรื่องของพนักงานทันทีที่เรื่องคนหลักผ่าน อย่างไรก็ดี บางท่านเลือกที่ยื่นทั้งสองเรื่องเข้าไปในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกันถ้าเคสนักลงทุนดูแล้วโอกาสผ่านสูงและมีความจำเป็นต้องให้พนักงานมาทำงานอย่างเร็วที่สุด สรุป คือ พิจารณาตามความเหมาะสมและขึ้นกับการวางแผนเรื่องระยะเวลาและความจำเป็นที่จะต้องนำคนงานมา ทั้งนี้ทางสำนักงานจะช่วยประเมินความเป็นไปได้ของเคสนักลงทุนก่อนว่ามีโอกาสผ่านกี่เปอร์เซ็นต์เพื่อให้นักลงทุนใช้ข้อมูลตรงนี้ตัดสินใจว่าจะทำเรื่องพนักงานไปพร้อมๆกันเลยหรือไม่ โดยที่ธุรกิจหนึ่งจะนำพนักงานเข้ามาจากประเทศไทยได้กี่คนนั้นขึ้นอยู่กับความจำเป็นและขนาดของธุรกิจ

Read More

การต่ออายุสถานะนักลงทุน E2 และสถานะพนักงาน E2 employee

วีซ่านักลงทุนคือวีซ่าที่อนุญาตให้นักลงทุนสัญชาติไทยเดินทางเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศอเมริกาได้ หลังจากที่เดินทางเข้ามาด้วยวีซ่านักลงทุนแล้ว ตมจะประทับตราให้นักลงทุนอยู่ในอเมริกาด้วยสถานะนักลงทุนได้เป็นระยะเวลา 2 ปี พอใกล้ครบกำหนด 2 ปีแล้ว ท่านที่ต้องการอยู่ประกอบธุรกิจต่อสามารถยื่นเรื่องขอต่ออายุสถานะนักลงทุนในอเมริกาได้เลย หรือจะเดินทางออกจากอเมริกาเพื่อไปขอวีซ่านักลงทุนที่ประเทศไทยก็ได้เมื่อใกล้ครบกำหนดสองปีและเดินทางเข้ามาด้วยวีซ่านักลงทุน 1. คำถาม ควรเริ่มทำเรื่องต่ออายุประมาณกี่เดือนก่อนที่สถานะจะหมด คำตอบ อย่างช้าที่สุดควรเริ่มก่อนสถานะเดิมหมดประมาณ 2 เดือน หลายๆท่านเตรียมวางแผนเรื่องการต่ออายุไว้เลยทันทีที่ได้วีซ่าหรือสถานะนักลงทุนมาครั้งแรกเนื่องจากต้องมีการวางแผนเรื่องการจ้างงาน รายได้ของธุรกิจที่เหมาะสม และเอกสารที่จำเป็นต้องรวบรวมไว้ตลอดระยะเวลา 2 ปีก่อนสถานะจะหมด 2. คำถาม เอกสารที่ควรมีในการต่ออายุสถานะหรือทำวีซ่านักลงทุนพอครบกำหนดสองปี คำตอบ อิมมิเกรชั่นและสถานฑูตมักจะพิจารณาจากหลายๆปัจจัยว่าจะให้ต่ออายุหรือไม่ เช่นเรื่องยอดขายของธุรกิจ รายได้ของนักลงทุน การจ้างงานคนอเมริกันและหรือคนถือใบเขียว ในกรณีที่ผู้ขอต่ออายุเป็นลูกจ้าง E2 employee ของนักลงทุน สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ ความต่อเนื่องของการทำงานและความจำเป็นของตำแหน่งที่ยื่นขอต่ออายุ 3. คำถาม ทางเลือกในการต่ออายุ ควรทำเรื่องที่อเมริกาหรือเดินทางกลับไปขอวีซ่าที่ประเทศไทย คำตอบ จะทำเรื่องต่ออายุในอเมริกาหรือขอวีซ่าที่ประเทศไทยก็ได้ หากเลือกที่จะทำเรื่องขอวีซ่าที่ประเทศไทย ข้อดีคือคุณจะได้เดินทางเข้าออกเป็นระยะเวลา 6 เดือนโดยไม่ต้องไปขอวีซ่าใหม่ภายในระยะเวลา 6 เดือนนั้น และเมื่อเดินทางเข้ามาแต่ละครั้ง ตมจะให้อยู่ในอเมริกา 2 ปีนับจากวันที่เดินทางเข้ามา ส่วนท่านที่ไม่มีแพลนที่จะเดินทางสามารถทำเรื่องต่ออายุในอเมริกาได้เลย หากเรื่องขอต่ออายุอนุมัติแล้วจะได้อยู่ต่ออีกเป็นระยะเวลา 2 […]

Read More

การจ้างพ่อครัวแม่ครัวมาจากประเทศไทย เริ่มต้นอย่างไรและขอวีซ่าอะไรดี

คำถาม การจ้างพ่อครัวแม่ครัวมาจากประเทศไทย เริ่มต้นอย่างไรและขอวีซ่าอะไรดี คำตอบ วิํธีที่เร็วที่สุดและค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดคือ การขอวีซ่า E2 Employee ให้กับพ่อครัวหรือแม่ครัว โดยที่ร้านอาหารคุณต้องมีหุ้นส่วนหรือเจ้าของร้านที่ถือวีซ่าหรือสถานะนักลงทุน E2 Investor จีงจะทำเรื่องจ้างพนักงานจากประเทศไทยเข้ามาด้วยวิธีนี้ได้ วีซ่า E2 Employee เป็นที่นิยมมาก เนื่องจาก 1. ไม่จำกัดจำนวนพนักงานที่จะเข้ามา ทั้งนี้การพิจารณาเรื่องจำนวนที่เหมาะสมก็ขึ้นกับขนาดของร้าน 2. พนักงานจะได้สถานะครั้งละ 2 ปี ต่ออายุสถานะในอเมริกาได้เรื่อยๆ ไม่ต้องเดินทางกลับไปขอวีซ่าที่ไทยพอครบ 2 ปี 3. ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการยื่นขอวีซ่าทำงานประเภทอื่นและไม่มีโควต้ารายปี 4. ระยะเวลาในการเตรียมเรื่องและรอผลจากประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 1 เดือนครึ่ง แต่หากลูกจ้างอยู่ในอเมริกาด้วยสถานะอื่นๆเช่นนักท่องเที่ยว หรือนักเรียน สามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานะแบบด่วน (premium processing) ได้ เตรียมเรื่องประมาณ 1 อาทิตย์และรอผลเพียง 15 วันเท่านั้นค่ะ 5. เงืื่อนไขในวีซ่าคือพนักงานต้องทำงานให้กับร้านที่ยื่นขอวีซ่าให้เท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ต้องมีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งที่ยื่นด้วยนะคะ

Read More

การซื้อขายหุ้นหรือธุรกิจให้คนในครอบครัว

คำถาม หากผมมีร้านอาหารในอเมริกาแล้วผมต้องการให้คนในครอบครัวมาซื้อหุ้นร้านและให้คนๆนั้นขอวีซ่าหรือสถานะนักลงทุน E2 จะทำได้หรือไม่ สถานฑูตหรืออิมมิเกรชั่นจะไม่ให้วีซ่าหรือสถานะ E2 เพราะมีความสัมพันธ์เป็นคนในครอบครัวกับผู้ขายจริงหรือไม่ คำตอบ การขายหุ้นให้พี่น้องหรือญาติคนอื่นๆในครอบครัวไม่ใช่เรื่องแปลกนะคะ เราสามารถให้เหตุผลการขายหุ้นและสามารถอธิบายในจดหมายที่ต้องยื่นพร้อมเอกสารอื่นๆต่อสถานฑูตหรืออิมมิเกรชั่นได้ค่ะ หากเป็นการทำวีซ่าจากประเทศไทย เวลาไปสัมภาษณ์ก็ตอบไปได้ตามความจริงและสามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงมาซื้อหุ้นในร้านของคนในครอบครัว เคสขายหุ้นกันภายในครอบครัว สถานฑูตหรืออิมมิเกรชั่นก็ให้วีซ่าและสถานะตามปกติเหมือนเคสทั่วไปตราบใดที่มีเอกสารอื่นๆครบถ้วนด้วย เช่น เอกสารเรื่องแหล่งที่มาของเงิน มีการซื้อขายกันจริง มูลค่าการซื้อขายเหมาะสม และมีเอกสาร business plan อธิบายเรื่องการเข้ามาทำงานของผู้ยื่นขอวีซ่าหรือสถานะอย่างละเอียดค่ะ

Read More

การจ้างพนักงาน ของร้านที่มีเจ้าของถือวีซ่า หรือสถานะ E2

คำถาม1: เจ้าของธุรกิจต้องจ้างพนักงานก่อนหรือไม่ ถึงจะยื่นขอวีซ่านักลงทุน E2 ได้ คำตอบ1: กฎหมายไม่ได้กำหนดว่าเจ้าของธุรกิจต้องจ้างพนักงานก่อนถึงจะยื่นขอวีซ่านักลงทุนได้ แต่เจ้าของธุรกิจต้องมีเอกสารประกอบเพื่อพิสูจน์ว่าธุรกิจคุณไม่ใช่ธุรกิจขนาดเล็กจนเกินไป และคุณมีความประสงค์จะจ้างงานพนักงานคนอเมริกันหลังจากที่คุณได้วีซ่านักลงทุนแล้ว หมายความว่าธุรกิจนั้นต้องเป็นธุรกิจที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอเมริกาและสร้างรายได้ให้คนอื่นนอกจากเจ้าของธุรกิจและครอบครัว คำถาม2: เจ้าของธุรกิจต้องจ้างพนักงานอเมริกันกี่คน ถึงจะทำเรื่องต่ออายุ (E2 renewal) สถานะนักลงทุนได้พอใกล้ครบกำหนดสองปี คำตอบ2: ในปีแรกของการทำธุรกิจ คุณอาจไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานในจำนวนที่มากนักเนื่องจากธุรกิจพึ่งเริ่มต้น แต่พอใกล้ถึงกำหนดการต่ออายุสถานะนักลงทุน (ควรทำเรื่องต่ออายุประมาณสามเดือนก่อนสิ้นสุดปีที่สอง) คุณควรต้องเริ่มจ้างพนักงานในจำนวนที่เหมาะสมกับขนาดและความต้องการของธุรกิจ หรือตามที่ได้เคยชี้แจงสถานฑูตหรืออิมมิเกรชั่นตอนยื่นขอวีซ่าหรือสถานะนักลงทุน เพื่อให้เรื่องขอต่ออายุสถานะนักลงทุนได้รับการอนุมัติค่ะ

Read More