ยื่นขอวีซ่านักลงทุนจากไทยหรือขอเปลี่ยนสถานะเป็นนักลงทุนในอเมริกา แบบไหนง่ายกว่ากัน
คำถามจากผู้อ่าน ถ้าต้องการทำธุรกิจในอเมริกา ควรที่จะยื่นขอวีซ่านักลงทุนที่สถานฑูตอเมริกาที่ประเทศไทย (E2 VISA) หรือ เดินทางเข้ามาอเมริกาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวหรือวีซ่าอื่น แล้วมายื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา (CHANGE OF STATUS) ขั้นตอนแตกต่างกันอย่างไร และทำแบบไหนง่ายกว่า คำตอบ เอกสาร ค่าดำเนินการและระยะเวลาในการดำเนินการค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก ส่วนที่แตกต่างกันหลักๆคือ การยื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา ผู้ยื่นไม่ต้องไปสัมภาษณ์ที่อิมมิเกรชั่น ในทางตรงกันข้าม การขอวีซ่าจากประเทศไทย ผู้ยื่นต้องไปสัมภาษณ์ที่สถานฑูตค่ะ การยื่นขอเปลี่ยนสถานะในอเมริกา อาจจะเหมาะกับผู้ที่ไม้ได้ต้องการเดินทางเข้าออกอเมริกาบ่อยนัก โดยหลักแล้วอิมมิเกรชั่นจะให้สถานะกับผู้ยื่นขอเปลี่ยนสถานะเป็นเวลาสองปี ซึ่งต่อได้เรื่อยๆตราบที่ยังประกอบธุรกิจอยู่ ถ้าเดินทางออกจากอเมริกาในระหว่างสองปีนี้ ผู้ยื่นต้องไปทำเรื่องขอเปลี่ยนหน้าวีซ่าจากนักท่องเที่ยวหรือวีซ่าอื่นที่ ถืออยู่เป็นวีซ่านักลงทุนที่สถานฑูตอเมริกาที่ประเทศไทย ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้ามาอเมริกาเพื่อบริหารธุรกิจต่อ แต่ถ้าไม่เดินทางออกเลยตลอดสองปี ก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนหน้าวีซ่าค่ะและต่ออายุที่อเมริกาได้เลยพอครบสองปี มีหลายๆท่านถามว่าการเปลี่ยนหน้าวีซ่านี้ยากมากมั้ย ตอบนะคะว่าไม่ยากหากมีเอกสารครบและธุรกิจยังดำเนินอยู่ตามปกติ สำหรับคนที่ยื่นขอวีซ่าจากที่ประเทศไทย โดยปกติสถานฑูตจะให้วีซ่าเป็นระยะเวลาหกเดือน หมายความว่าผู้ถือวีซ่าต้องเดินทางเข้ามาอเมริกาภายในหกเดือนนั้น เมื่อมาถึงอเมริกา CBP (Custom and Border Protection) จะประทับตราให้อยู่ได้สองปีหลังจากวันที่เดินทางเข้ามาค่ะ และถ้าต้องการเดินทางเข้าออกระหว่างหกเดือนนั้นก็สามารถทำได้ แต่ถ้าต้องการเดินทางหลังจากที่วีซ่าหมดอายุแล้ว ก็เดินทางได้เพียงแต่ต้องไปยื่นขอวีซ่าอีกครั้งก่อนเดินทางกลับเข้ามา อเมริกา Note สำหรับคนที่อยู่ในอเมริกาอยู่แล้วด้วยสถานะอื่น เช่นนักเรียน F1 หรือนักท่องเที่ยว B1/2 ก็สามารถยื่นขอเปลี่่ยนสถานะในอเมริกาได้เลย […]
Read More