เทรนด์การอนุมัติวีซ่านักลงทุน E2 ในยุครัฐบาลทรัมป์
มีคำถามจากผู้อ่านเข้ามาค่อนข้างมากเรื่องความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และแนวโน้มการอนุมัติการยื่นขอวีซ่านักลงทุน E2 ตั้งแต่ทรัมป์เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ขออนุญาตตอบตามประเภทของวีซ่าดังนี้
1.วีซ่านักลงทุน (E2 Investor) แนวโน้มการอนุมัติเรื่องยังสูงตามปกติหากเอกสารที่เตรียมครบถ้วนและผู้ยื่นมีคุณสมบัติตรงตามกับเงื่อนไขการขอวีซ่า โดยที่สำนักงานเราแนะนำให้มีเงินลงทุนอย่างน้อย $40,000 ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจขึ้นใหม่, เซ้งธุรกิจต่อจากเจ้าของเดิมหรือซื้อหุ้นในธุรกิจที่มีอยู่แล้ว ท่านที่สนใจยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ควรได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องตั้งแต่เรื่องแหล่งที่มาของเงินลงทุน การทำสัญญาซื้อขายและการโอนเงินลงทุนที่ถูกต้อง
2. วีซ่าพนักงาน (E2 essential employee) สำหรับตำแหน่งพ่อครัวแม่ครัวในธุรกิจร้านอาหาร หรือตำแหน่งที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะในธุรกิจอื่นๆ รัฐบาลนี้ค่อนข้างเน้นเรื่องประสบการณ์ทำงานของผู้ที่ยื่นขอวีซ่า โดยต้องดูว่าตำแหน่งที่จะเข้ามาทำงานและประสบการณ์ที่ผ่านมาของผู้สมัครมีความคล้ายคลึงกันมากน้อยแค่ไหน และความจำเป็นในการจ้างงานแรงงานจากประเทศไทยของนายจ้าง อีกทั้งขนาดของธุรกิจที่จ้างงานก็มีผลต่อการอนุมัติวีซ่าเช่นกัน หากเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีฐานลูกค้ามากและมีรายได้ต่อปีสูงย่อมมีความจำเป็นในการจ้างแรงงานที่มีทักษะเฉพาะหลายตำแหน่งจากประเทศไทย ส่วนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง จะยื่นขอวีซ่าให้พนักงานมาได้ตามความจำเป็นและขนาดของธุรกิจ หากท่านต้องการให้สำนักงานประเมินคุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าพนักงานเพื่อดูความเป็นไปได้ของการยื่นเรื่อง สามารถโทรเข้ามาติดต่อได้ที่เบอร์ +16314648471 หรือแอดไลน์ line id globalvisanow
วีซ่าทั้งสองประเภทนี้ยังไม่มีแนวโน้มจะถูกยกเลิก เนื่องจากมีมายาวนานมากกว่า 100 ปีและเป็นวีซ่าที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอเมริกา เพราะส่งเสริมให้มีการนำเงินเข้ามาลงทุนในอเมริกา และให้มีการจ้างงานคนอเมริกันเพิ่มขึ้นอีกด้วย