คำตอบ มีหลายๆทางเลือก เช่น
- H2B ซึ่งเป็นวีซ่าที่ออกให้กับคนที่จะมาทำงานระยะสั้น ๆ เป็นโปรเจคหรือตามสัญญาที่เซ็นกับนายจ้าง (สัญญาหนึ่งหรือสองปี) ขั้นตอนในการเตรียมเรื่องคล้ายกับการยื่นขอกรีนการ์ด คือต้องมีการทำ recruitment process วีซ่าประเภทนี้มีโควต้ารายปีจึงควรรีบยื่นทันที่ที่ทราบว่าต้องการให้ พนักงานมา ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องอยู่ที่ประมาณสามถึงสี่เดือน ค่าใช้จ่ายสูงกว่าข้อ 2 & 3
- E2 Employee หากร้านอาหารคุณมีหุ้นส่วนหรือเจ้าของร้านที่ถือวีซ่า E2 Investor คุณสามารถยื่นเรื่องให้พนักงานจากประเทศไทยมาทำงานที่นี่ได้ วีซ่าประเภทนี้เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากไม่จำกัดจำนวนพนักงานที่จะเข้ามาและพนักงานจะได้วีซ่าครั้งละสองปี วีซ่าต่ออายุได้เรื่อยๆ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการยื่นวีซ่าทำงานประเภทอื่นและไม่มีโควต้ารายปี จึงค่อนข้างแน่นอนว่ายื่นแล้วจะผ่าน หากคุณสมบัติผู้ยื่นตรงตามตำแหน่งที่ยื่น ส่วนระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องอยู่ที่ประมาณสามถึงสี่เดือน
ประเภทตำแหน่งที่ยื่นแบ่งออกเป็นสองประเภท ประเภทแรกคือ กลุ่มที่เข้ามาทำงานด้านบริหาร การตลาด การเงิน ส่วนกลุ่มที่สอง คือ พวกที่มีทักษะเฉพาะเช่น พ่อครัว แม่ครัว
ร้านอาหารและร้านสปา นิยมยื่นวีซ่าประเภทนี้ให้กับพนักงานโดยหาคนเข้ามาลงทุนในร้านก่อนเพื่อปู ทางให้มีคนที่ถือวีซ่า E2 investor และให้คนนี้ยื่นขอวีซ่าทำงานให้กับพนักงานแบบไม่จำกัดจำนวน เป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องคนงานในร้านในระยะยาว
- H1B เป็นวีซ่าที่ออกให้กับคนที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ คนที่มีคุณวุฒิและระดับการศึกษาในระดับปริญญาตรีเป็นอย่างต่ำ เช่น ตำแหน่งด้านการตลาด ด้านการเงิน ด้านการบริหาร โดยที่วีซ่าประเภทนี้มีโควต้ารายปี 65,000 ที่ต่อปี และต้องยื่นให้ทันกำหนด (ภายในวันที่ 1 เมษา) ค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับ E2 employee และได้วีซ่าครั้งละ 1-3 ปี ต่ออายุได้มากที่สุดรวม 6 ปี ระยะเวลาในการพิจารณาเรื่องอยู่ที่สามถึงสี่เดือนเช่นกัน