วีซ่าหรือสถานะนักลงทุน E2 ไม่ได้เป็นบันไดไปสู่กรีนการ์ดโดยตรง แต่ผู้ที่ถือวีซ่านี้หรือสถานะนี้มีหลายๆทางเลือกในการยื่นขอกรีนการ์ด เช่น
ทางเลือกแรกคือ ยื่นขอวีซ่านักลงทุนประเภท EB5 ซึ่งผู้ยื่นต้องมีเงินลงทุนอย่างน้อย $500,000 โดยนำเงินไปลงทุนใน Regional Center (Government Approved Project) หรือลงทุน $1,000,000 ในธุรกิจของตนเอง
ทางเลือกที่สองคือยื่นขอ H1B ประเภท self-employed entrepreneur และยื่นขอกรีนการ์ดโดยใช้ธุรกิจที่ตนเองเป็นเจ้าของอยู่ได้
ทางเลือกที่สามคือ ในกรณีที่สามีหรือภรรยาของผู้ถือวีซ่าหรือสถานะนักลงทุนทำงานและบริษัทที่ทำงานยื่นเรื่องขอกรีนการ์ดให้กับคู่สมรสของนักลงทุน นักลงทุนก็จะได้กรีนการ์ดด้วยเช่นกัน (Derivative)
ทางเลือกที่สี่ คือยื่นขอกรีนการ์ดประเภท NIW (National Interest Waiver) โดยที่ไม่ต้องมีนายจ้าง ในกรณีที่ผู้ยื่นมีธุรกิจที่สำคัญต่อเศรษฐกิจอเมริกาเป็นอย่างมาก