คำตอบ
- กรณีเซ้ง Take-over existing business ควรเริ่มติดต่อทนายก่อนจะตกลงเซ็นสัญญาซื้อขายร้านหรือวางมัดจำกับผู้ขาย
- กรณี Start- Up ควรเริ่มติดต่อทนายก่อนตกลงเซ็นสัญญากับ Landlord เรื่องการเช่าสถานที่
ลูกค้าหลายๆท่านมาติดต่อเราเพื่อให้ช่วยยื่นเรื่องเปลี่ยนสถานะหรือขอวีซ่านักลงทุน E2 หลังจากที่เปิดร้านแล้วบ้างก็มี หลังจากโอนเงินและทำ closing กับคนขายแล้วบ้างก็มี บางคนโชคดีโอนเงินและใช้แหล่งที่มาของเงินที่ถูกต้องตามกฎระเบียบของอิมมิเกรชั่นก็ทำให้เคสไม่ประสบปัญหา แต่บางคนใช้แหล่งที่มาของเงินที่ไม่ถูกต้องและโอนเงินมาไม่ถูกต้องตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดก็จะทำให้เคสประสบปัญหาและอิมมิเกรชั่นตั้งคำถามมาก
ดังนั้นช่วงเวลาที่ลูกค้าควรเริ่มติดต่อทนายเพื่อเตรียมยื่นเรื่องวีซ่านักลงทุน คือ เมื่อได้ร้านหรือธุรกิจที่สนใจจะลงทุนและได้มีการพูดคุยกับผู้ขายและLandlord ในเบื้องต้นแล้วเรื่องราคาซื้อและค่าเช่า โดยที่ทนายจะได้แนะนำวิธีการโอนเงินเข้ามาจากประเทศไทยอย่างถูกต้องและตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ลงทุน (เงินที่จะนำมาชำระให้แก่ผู้ขายและผู้ให้เช่า) ว่ามาจากแหล่งที่มาของเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีเอกสารพิสูจน์ได้ เพื่อให้การเปลี่ยนสถานะหรือการขอวีซ่านักลงทุนราบรื่นค่ะ